[bp_title][/bp_title]

    [bp_date format=”F j, Y”][/bp_date]

    ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา เด็ก ๆ ใช้เวลาอยู่กับการเล่นสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อปมากขึ้น ซึ่งแปลว่าเด็กรุ่นนี้เป็นเด็กที่จะโตมาพร้อมกับการใช้ชีวิตอยู่กับอุปกรณ์ที่มีอินเตอร์เน็ตตลอดเวลา

    สำหรับพ่อแม่ที่กังวลเรื่องเวลาในการใช้หน้าจอของลูก มีคำแนะนำจากการวิจัยว่าพ่อแม่ควรเลือกเฉพาะเนื้อหาการเรียนรู้ที่มีคุณภาพสูง โดยเน้นไปที่พัฒนาการของลูก ด้วยการดูและเล่นไปพร้อมกับลูก และจากการทำแบบนี้ พ่อแม่สามารถวางแนวทางที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ของลูกทางสื่อดิจิทัล และช่วยกระตุ้นการฝึกจำ ฝึกภาษา และ การพัฒนาทางอารมณ์ และทางสังคมอีกด้วย

    [bp_image image_id=”1478″ position=”center”][/bp_image]

    อย่างไรก็ตาม แทนที่จะกังวลเรื่องผลกระทบของการควบคุมเวลาหน้าจอ การวิจัยของนักจิตวิทยา แนะนำให้พ่อแม่สอนลูกว่าใช้สื่อเหล่านั้นอย่างไรให้ถูกต้อง มากกว่าสนใจเวลาหรือความถี่ในการใช้  ซึ่งแทนที่จะคิดว่าการใช้หน้าจอเป็นการทำร้ายลูก พ่อแม่ควรตั้งเป้าไปที่การทำให้ลูกโตขึ้นอย่างมีคุณภาพตามสังคมยุคดิจิทัล พ่อแม่ควรวางแบบแผนที่จะช่วยให้ลูกเข้าใจถึงศีลธรรมและแยกแยะสิ่งที่ถูกต้อง เพื่อให้ลูกได้ใช้ชีวิตที่เหมาะสมในยุคนี้

    ในฐานะผู้ปกครอง คุณควรระวังเรื่องของการใช้หน้าจอของลูกในทางนิสัย และสุขภาพจิตที่ดีของลูก คุณต้องสังเกตผลลัพธ์ในเรื่องการกำหนดเวลาหน้าจอ และการโต้ตอบเวลาที่เราจะเก็บอุปกรณ์ที่ลูกเล่นคืนเมื่อหมดเวลา คุณสังเกตปัญหาเกี่ยวกับพฤติกรรมของลูกในตอนที่คุณปฏิเสธการขอดูหน้าจอหรือไม่ ลูกของคุณมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือไม่ ถ้ามี ก็ถึงเวลาที่คุณจะกำหนดข้อตกลงเกี่ยวกับเรื่องเวลาการใช้หน้าจอของลูกได้แล้ว เพราะตอนที่ลูกเป็นเด็กเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะเรียนรู้เรื่องการจัดการตัวเองกับการใช้หน้าจอมากที่สุด

    ถ้าอยากเริ่มควบคุมการใช้หน้าจอของลูก เราขอแนะนำวิธีดังนี้

    1. กำหนดเวลาสำหรับการใช้หน้าจอ และต้องแน่ใจว่าทุกคนในครอบครัวต้องให้ความร่วมมือกับข้อตกลงด้วย เช่น การไม่ใช้หน้าจอตอนกินข้าว ไม่ใช้สมาร์ทโฟนตอนขับรถ หรือการไม่ใช้หน้าจอก่อนเวลานอนหนึ่งชั่วโมง เป็นต้น
    2. การกำหนดเวลาหน้าจอนั้น ผู้วิจัยแนะนำว่าควรให้คนในครอบครัวสามารถต่อรองเรื่องเวลาการใช้หน้าจอกันได้ ขึ้นอยู่กับความต้องการที่จะใช้หน้าจอของลูก แทนที่จะห้ามใช้หรือควบคุมเวลาการใช้อย่างตายตัว ควรปล่อยให้ลูกเป็นคนตัดสินใจเอง ซึ่งการต่อรองนี้อาจจะอยู่ในช่วงเวลาว่างของลูก การทำแบบนี้ ส่งผลถึงการพัฒนาเรื่องความมั่นใจในตัวเอง การแบ่งเวลา หรือการรับรู้และตอบสนองความต้องการของตัวเอง และยังเป็นการช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่กับลูกได้อีกด้ว
    3. สามารถเพิ่มเวลาที่ลูกใช้หน้าจอได้หากพวกเขาใช้งานเกี่ยวกับการเรียนรู้ หรือการศึกษา การที่ลูกชอบดูหน้าจอในเนื้อหาที่ดี แปลว่าเนื้อหาเหล่านั้นส่งผลให้การเรียนของลูกสนุก และมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะการเรียนรู้ที่มีประสิทธิภาพจะเกิดขึ้นเมื่อเราเรียนแบบแอคทีฟ ได้มีส่วนร่วมกับการเรียน และการเรียนนั้นมีความหมายกับเรา ไม่ว่าจะเป็นช่วงอายุไหนก็ตาม ซึ่งเด็ก ๆ จะเรียนภาษาได้มีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อได้เรียนกับสื่อดิจิทัล ซึ่งมีเนื้อหาที่ดีมากมายอยู่ในโลกออนไลน์เต็มไปหมดที่จะทำให้เด็กได้มีส่วนร่วม และการเรียนรู้แบบนี้ย่อมดีกว่าการเรียนรู้แบบนั่งดูเฉย ๆ แน่นอน

    [bp_image image_id=”1475″ position=”center”][/bp_image]

    เมื่อพูดถึงการที่เด็กต้องเรียนเกี่ยวกับตัวหนังสือหรือตัวเลข และต้องพัฒนาในเรื่องการจำเสียงและตัวหนังสือ แท็บเล็ต หรือมือถือก็เป็นเครื่องมือดี ๆ ที่เรามีอยู่ใกล้ตัว และตัวอย่างของแอปพลิเคชันที่ใช้ในการเรียนภาษาอังกฤษสำหรับเด็กคือกาแลคซี่ คิดส์(Galaxy Kids) แอปนี้ออกแบบมาให้เด็ก ๆ ได้มีส่วนร่วมในการเรียน และทำให้เด็ก ๆ มีความมั่นใจในการพูดภาษาอังกฤษมากขึ้น

    แอปพลิเคชันนี้คือแบบอย่างของคลาสเรียนที่มีเพื่อน ซึ่งเป็นตัวละครในจินตนาการที่เรียนด้วยกันอย่างสนุกสนาน และได้เรียนรู้ตามหลักสูตรนานาชาติที่ออกแบบโดยครูสอนภาษาอังกฤษ ซึ่งจะทำให้ลูกของคุณได้ฝึกภาษาอังกฤษได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยเนื้อหาที่เด็ก ๆ จะได้เรียนในแอปพลิเคชันนี้นั้น มีทั้งการฝึกพูดโต้ตอบกับ AI Chat Buddies ที่เป็นเหมือนเพื่อนคุยของเด็ก ๆ และยังมีเพลงเด็กให้ได้ฝึกร้องตาม เป็นการได้ฝึกความจำไปพร้อม ๆ กับการฝึกภาษาอีกด้วย

    Related Posts

    ควรเรียนตัวอักษร a,b,c หรือ Phonics ก่อน?

    เมื่อถึงคราวที่ต้องสอนให้ลูกอ่านภาษาอังกฤษออก พ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะพาลูกเรียนรู้จักชื่อตัวอักษรก่อนด้วยการใช้สื่อต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น บล็อกตัวอักษร หนังสือ ภาพประกอบ เป็นต้น ในขณะที่เรามีความตั้งใจดี พ่อแม่ส่วนใหญ่อาจทำให้ลูกได้ประโยชน์น้อยกว่าที่ควรจะเป็นสำหรับการปูพื้นฐานการอ่าน นี่เป็นเพราะว่าพวกเขาสอนชื่อของตัวอักษรก่อน

    รวบรวมประโยคเพื่อเริ่มบทสนาสำหรับเด็ก

      ในปี 2020 เป็นปีที่ทั่วโลกใกล้กันมากกว่าที่เคย ซึ่งนั้นหมายความว่าเด็กจำเป็นต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารมากขึ้นและยิ่งเด็กเรียนรู้ภาษาอังกฤษมากเท่าไหร่โอกาสในอนาคตก็มากขึ้นเท่านั้นทุกวันนี้ผู้ปกครองหลาย ๆ ท่านจึงเกิดคำถามขึ้นว่า วิธีไหนจะเป็นวิธีที่ทำให้ลูกเรียนรู้ภาษาอังกฤษได้ดีที่สุด จริง ๆ แล้วคำตอบนั้นง่ายมาก วิธีการเรียนภาษาอังกฤษที่ดีที่สุดคือ การพูดภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเลือกให้ลูกเรียนกับครูสอนพิเศษ โรงเรียนนานาชาติ หรือเรียนบนแอปพลิเคชันก็ตามสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การฝึกฝน อย่างไรก็ตามโรงเรียนอาจมีขีดจำกัดในการสอน เนื่องจากเด็กควรเรียนภาษาอังกฤษอย่างสนุกสนานเพราะเด็กสามารถพูดคุยในหัวข้อที่หลากหลายได้มากกว่าผู้ใหญ่ แล้วควรพูดเกี่ยวกับหัวข้ออะไรบ้าง?เพื่อตอบคำถามนี้ผู้เชี่ยวชาญ ESL ของเราได้รวบรวมประโยคที่ควรใช้เริ่มบทสนทนากับเด็ก อายุ 3-7 ปีมาไว้ให้แล้ว [bp_image image_id=”12587″ position=”center”][/bp_image] ผู้ปกครองสามาถใช้ประโยคเหล่านี้ในการพูดคุยกับลูกที่บ้านเพื่อเพิ่มพัฒนาการด้านภาษาของลูก  และผู้ปกครองและลูก ๆ จะได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้นคลิก “Play” ในแต่ละประโยชน์เพื่อฟังการออกเสียงที่ถูกต้อง! 1. ถามคำถามเกี่ยวกับตัวลูก ทุก ๆ คนชอบที่จะพูดคุยเรื่องของตัวเองและเด็ก ๆ ก็เช่นกันนี่จึงเป็นหัวข้อที่ดีในการเริ่มต้น ถ้าลูกอายุยังน้อยสามารถใช้ภาษากายเพื่อเพิ่มความเข้าใจ What is your name? [sc_embed_player fileurl=”https://galaxykids.ai/wp-content/uploads/2020/11/ta.mp3″]คุณชื่ออะไร? How old are you? [sc_embed_player fileurl=”https://galaxykids.ai/wp-content/uploads/2020/11/Talethia_miniChat_QA-2.wav”]อายุเท่าไหร่? When is […]
    SiteLock